รีวิวหนัง Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ความพยายามเฮือกสุดท้าย
รีวิวหนัง Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ความพยายามเฮือกสุดท้าย
อ่านแล้ว 125 ครั้ง
จักรวาลเวทมนตร์ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านไป 2 ทศวรรษ แต่ก็ยังมีความพยายามที่จะสร้างแฟรนไชส์หนังชุดใหม่ ๆ ออกมา เพื่อขยายความแข็งแกร่งให้กับจักรวาลนี้ และภาคล่าสุดของหนังชุดที่ยังดำเนินเรื่องอยู่ในเวลานนี้ก็คือ "Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore" ได้ฤกษ์ลงโรงฉายอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการแบกรับแรงกดดันมหาศาลของหนังเรื่องนี้ เพราะนี่อาจจะเป็นเครื่องชี้้ชะตาความเป็น-ความตายของหนังเลยก็ว่าได้...
Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore เป็นเรื่องราวเมื่อ ศาสตราจารย์ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ รู้ว่าพ่อมดศาสตร์มืด เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ เริ่มเดินแผนการหวังปกครองโลกเวทมนตร์ด้วยตัวเอง แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดอดีตเพื่อนรักได้ด้วยตัวคนเดียว เขาจึงมอบหมายให้ศิษย์รักนักสัตว์วิเศษวิทยา นิวท์ สคามันเดอร์ นำทัพเหล่าพ่อมด-แม่มด รวมถึงมักเกิลนักทำเบเกอรี่ผู้กล้าหาญเผชิญหน้ากับภารกิจเสี่ยงอันตราย ที่พวกเขาต้องต่อสู้กับสัตว์วิเศษทั้งเก่าและใหม่ รวมถึงกองทัพผู้ติดตาม กรินเดลวัลด์ ในสถานการณ์ที่ต้องเดิมพันสูงเช่นนี้ ดัมเบิลดอร์ จะสามารถดึงตัวเพื่อนรักของเขากลับมาได้หรือไม่?
คงจะต้องบอกตรง ๆ ว่า การกลับมาครั้งนี้เป็นการเติมเต็มไตรภาคที่เต็มไปด้วยความพยายามอย่างขึงขังของหนังเรื่องนี้ หลังจากที่ภาคก่อนทำเอาไว้ได้ค่อนข้างเลวร้ายและต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้แฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ต้องตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยง แม้ว่าภาคนี้จะยังคงเต็มไปด้วยทัมนักแสดงและทีมงานชุดเดิม "เดวิด เยตส์" ยังคงกลับมารับหน้าที่กำกับหนังเช่นเคย พร้อมกับ "เจ. เค. โรลลิ่ง" ที่ยังมาทำหน้าที่ดูแลภาพรวมในส่วนของเรื่องราว แม้ว่าเธอจะถูกลดบทบาทไม่ค่อยให้ยุ่งกับบทหนังแล้วก็ตาม
แต่กระนั้น Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ก็ยังคงเป็นความพยายามที่ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จได้ดีเลิศอะไรสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับหนังภาคที่แล้ว ก็นับว่าหนังได้ช่วยยกระดับได้ดีขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะองค์ประกอบของบทหนังที่มีการขัดเกลาและปรับให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น แม้จะยังไม่ใช่ความกลมกล่อมที่เพอร์เฟคอะไรสักเท่าไหร่ แต่ถือว่าเป็นการพัฒนาไปในทางที่ดี
Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ยังคงมีจุดอ่อนในส่วนของแรงดึงดูดและเสน่ห์ของการเล่าเรื่อง เพราะกลายเป็นจุดที่หนังไม่สามารถใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบแบบที่ Harry Potter เคยทำเอาไว้ได้เลยสักนิด จึงทำให้ภาคนี้ยังเต็มไปด้วยอรรถรสที่ยังค่อนข้างจืดชืด น่าเบื่อหน่าย และไม่มีแรงดึงดูดเรียกความสนใจให้ตรึงใจสักเท่าไหร่ แม้ว่าหนังจะพยายามสร้างความขึงขังและเข้มข้นมากขึ้นแล้วก็ตาม
มาในภาคนี้มีองค์ประกอบของตัวละครมากมายเต็มไปหมด แต่หลัก ๆ ก็หลายเป็นการเบนเข็มไปเล่าเรื่องราวหลักของ ดัมเบิลดอร์ ที่ "จู๊ด ลอว์" ได้กลายมาเป็นบทนำ ที่เขาก็ยังคงรับบทนำได้อย่างสมบทบาทตามมาตรฐาน แม้ว่าการขยายฐานของตัวละครนี้จะยังไม่ได้น่าประทับใจสักเท่าไหร่ก็ตาม ในขณะที่ "แมดส์ มิคเคลสัน" ที่เข้ามาเป็น กรินเดลวัลด์ แทนในภาคนี้ ก็นับว่าเขามารับไม้ต่อที่ค่อนข้างน่าพอใจ ไว้วางใจฝีมือการแสดงของเขาไว้ได้เลย และทักษะของเขาก็ช่วยส่งเสริมตัวหนังได้ค่อนข้างดี
แต่กลับกลายเป็นว่า "เอ็ดดี้ เรดเมย์น" ในบท นิวท์ ได้ผันตัวกลายเป็นตัวละครสมทบของหนังเรื่องนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เหมือนหนังยังเอาเขามาประดับเอาไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเรื่องที่ยังต้องใช้ชื่อนี้อยู่ แต่ส่วนประกอบของเขาที่ได้รับหน้าที่นั้นถือว่าค่อนข้างใช้งานได้ไม่เต็มไปประสิทธิภาพ และทอดทิ้งเอาไว้อย่างน่าเสียดาย รวมทั้งองค์ประกอบของเหล่าวิเศษต่าง ๆ ที่หนังเคยปูเรื่องเอาไว้ ถูกทิ้งเอาไว้กลางทางแบบไม่ใยดี และเขาก็ไม่สามารถดึงตัวเองขึ้นมาให้โดดเด่นได้เช่นกัน
Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ยังเป็นภาคที่ถือว่าไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายเหมือนภาคที่แล้ว ด้วยวิธีการเล่าเรื่องและปมประเด็นต่าง ๆ ที่ยังไม่ทำให้คนดูรู้สึกคล้อยตามได้สักเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีความพยายามแก้ไขบทและวิธีเล่าเรื่องแล้วก็ตาม แต่หนังก็ยังมีรสชาติจืดอยู่ กลายเป็น 2 ชั่วโมงที่ถ้าหลับได้ก็หลับไปแล้ว แต่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายของหนัง กลายเป็นไคลแม็กซ์ที่น่าจะดีที่สุดเท่าที่หนังเรื่องนี้มอบให้
ทั้งนี้ หนึ่งในประเด็นที่หนังภาคนี้ถ่ายทอดออกมาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่น่าสนใจ นั่นก็คือความเป็นตัวตนของดัมเบิลดอร์ ที่เป็นการขยี้ปมที่ช่วยสร้างกระจ่างให้กับแฟน ๆ ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเด็นความสัมพันธ์เขากับ กรินเดลวัลด์ ที่กลายเป็นมิตรภาพที่เหนี่ยวแน่นและยิ่งใหญ่กว่าที่ใครคิด นับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่หนังเลือกที่จะหยิบใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ กลายเป็นการสร้างความหลากหลายที่ต้องปรบมือให้
โดยภาพรวมแล้ว Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ก็ถือว่าเป็นภาคที่ 3 ของหนังชุดนี้ที่ยังเต็มไปด้วยความพยายามและเจตนาดีที่หมายมั้นจะปลุกพลังให้กับหนังชุดนี้ แต่ในความพยายามนั้นยังไม่สามารถก้าวข้ามจุดด้อยเดิม ๆ ไปได้สักเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าเป็นแนวทางการพัฒนาขึ้นจากภาคที่แล้วอย่างชัดเจน ถึงองค์ประกอบการเล่าเรื่องและทิศทางของเรื่องจะยังไม่ดึงดูดใจได้เพียงพอ แต่ก็เป็นสิ่งที่ยังช่วยเติมเต็มจินตนาการของแฟน ๆ หนังชุดได้ไม่มากก็น้อยได้อยู่ดี โดยเฉพาะกลิ่นอายความคิดถึงและอีสเตอร์เอ้กต่างๆ ที่เชื่อมโยงจาก Harry Potter ที่เป็นสิ่งที่ทำให้เราชวนติดตาม...
VIDEO